เหตุการณ์: ยุค สงครามเวียดนาม สงครามในตะวันออกกลาง กระแสการต่อสู้เพื่อเรียกร้องสิทธิพลเมือง คนแคร์เรื่องมลภาวะ กลัวพลังงานหมดโลก ตระหนักในปัญหาของโลกกันมากขึ้น มีการรับเอา วัฒนธรรมหลากหลายของตะวันออกเข้ามาด้วย
ยุคนี้เป็นยุคที่คนเริ่มใช้แฟชั่นเป็นการแสดงออกถึงตัวตน เลยมีการแต่งตัวสไตล์ต่างๆที่หลากหลาย
ยุคนี้เป็นยุคที่คนเริ่มใช้แฟชั่นเป็นการแสดงออกถึงตัวตน เลยมีการแต่งตัวสไตล์ต่างๆที่หลากหลาย
วัน นึงเธออาจเลือกใส่มินิสเกิร์ตสั้นปริ๊ด อีกวันใส่ maxi dress ยาวกรอมเท้า แล้ววันต่อมาก็นึกอยากใส่ Hot pants สั้นกุดไปเลยก็ได้
โฉมหน้าของ maxi dress ที่ออกมาในยุคนี้
เก๋ดีมะ? มีทั้งแบบแขนสั้น แขนยาว คอจีน กระโปรง กางเกง ฮิปสุดๆ
(ล่าสุดดาราฮอลลีวูดหลายคนเอา maxi dress กลับมาฮิตใหม่อีกแล้ว)
ชุดสูทแบบกางเกง ก็เริ่มมีในยุคนี้เหมือนกัน
การแต่งกายที่ unisex(ใส่ได้ทั้งหญิง-ชาย) เริ่มเป็นที่นิยม
กระโปรงยุคนี้ ยังคงความสั้น
แต่เค้าเลิกฮิตมินิเสกิร์ต หรืออะไรที่ ทรงตรงๆ แล้ว
ชอบทรงตัว A บานออกด้านล่างเล็กน้องแต่ไม่พอง (ตามรูป)
สิ่งที่ยังอยู่จาก 60s คือ Princess line และกระดุมสองแถวคู่
(ซ้าย) Princess line กับกระโปรงจีบเข้าข้างใน
(ขวา) ชุดกระดุมสองแถว ใส่เนคไท นิยมในยุค 70s
(ขวา) ชุดกระดุมสองแถว ใส่เนคไท นิยมในยุค 70s
ตัวอย่างภาพเดรสแบบอื่นๆ ในยุคนี้น่ารักเหมือนกัน
สังเกตว่ากระโปรงจะเป็นทรงเอนะคะ ไม่บานฟูเหมือนยุค 50
สังเกตบรรดา princess line แถวคู่ ใส่แล้วเพรียวๆ
อย่างไรก็ตามสิ่งที่โดดเด่นมากๆ ในยุค 70s ก็คือ "ฮิปปี้"
เป็นแนวแฟชั่นที่ผสมผสานความเป็น Ethnic style (พื้นเมือง)
จุดเด่นคือลายผ้าที่ดูซับซ้อน แนวตะวันออก สีสันสดใส ทั้งหลาย
แฟชั่นฮิปปี้ ประกอบด้วย เสื้อเชิ้ตผ้ามัดย้อม แขนยาวบานๆ รุ่ยๆ รุงรังๆ เซอร์ๆ กางเกง
ขาบาน ผมฟูๆ กับที่คาดหัว
ขาบาน ผมฟูๆ กับที่คาดหัว
ตัวอย่างจากยุคนี้
Jimi Hendrix ผู้นำเทรนด์ผ้ามัดย้อม
(มันคือผ้าบาติกของปักษ์ใต้บ้านเรานี่เอง)
Farrah Faucett ผู้นำเทรนด์ทรงผมสาวๆ สมัยนั้นค่ะ ฟูๆ ฮิปปี้ๆ
ยุคนี้ทรง Afro(แอฟโฟ่ร์)
คนดังที่ทำผมทรงนี้คือ Michael Jackson (ซ้าย)
และวง The Jackson5 (ขวา)
และวง The Jackson5 (ขวา)
70's Fashion
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น